สวพ.นำนักวิจัย-ชุมชน ร่วมงาน Appropriate Technology Matching Day 2025

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ศักดิ์ นพรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรพงศ์ หนูช่วย และอาจารย์คมกริษณ์ ศรีพันธ์ นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และตัวแทนชุมชนในพื้นที่ตำบลบางไทร ตำบลดอนสัก ตำบลพุมเรียง และตำบลตำบลตะกุกเหนือ เข้าร่วมงานประชุมสัมมนาและแสดงผลงานวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม”มหกรรมเศรษฐกิจฐานราก:แก้จน ลดหนี้ เพิ่มรายได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม พื้นที่ภาคใต้ ปี 2568″ หรือ”Appropriate Technology Matching Day 2025″ภาคใต้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จังหวัดสงขลา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวเปิดงาน โดยระบุว่าการนำผลงานวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม พร้อมใช้ไปช่วยพัฒนาชุมชน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ ทำให้ชุมชนพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน มีความสอดคล้องอย่างลงตัวกับนโยบายวิจัยติดดิน นวัตกรรมยกระดับเศรษฐกิจฐานรากทั่วไทย นำงานวิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม สู่การยกระดับคุณภาพชีวิต คุณภาพสังคม และคุณภาพสิ่งแวดล้อม ของนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. และขอยืนยันว่ากระทรวง อว.พร้อมให้การสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมในลักษณะนี้อย่างเต็มที่

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวง อว.กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่างานมหกรรมเศรษฐกิจฐานรากฯ หรือ Appropriate Technology Matching Day 2025 พื้นที่ภาคใต้นี้ ถูกจัดขึ้น เพื่อสนองต่อนโยบายวิจัยติดดิน นวัตกรรมยกระดับเศรษฐกิจฐานรากทั่วไทย ของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. โดยจัดไปแล้วในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภายในเดือนพ.ย.นี้จะจัดต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งภาคกลาง เพื่อ นำผลงานการศึกษาค้นคว้าวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมของคณาจารย์ นักวิจัยไปเผยแพร่ให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้รับรู้ และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้มั่นคงขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงแก่เศรษฐกิจฐานราก และเศรษฐกินหมุนเวียนในพื้นที่ ต่อไป