วันที่ 3 พฤศจิก…
สวพ.จัดอบรม “วิศวกรสังคม” พัฒนาศักยภาพคณาจารย์สร้างนวัตกรรมจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสู่ผลิตภัณฑ์ชุมชนยั่งยืน
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จัดอบรม เชิงปฏิบัติการ “พัฒนางานวิจัยและบริการวิชาการด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพคณาจารย์ให้เข้าใจบริบทของพื้นที่และพัฒนางาน วิจัยที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัญญาภัส ทองมุสิทธิ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา ผู้ช่วยศาสตราจารย์จีรนันท์ กล่อมนรา แก้วรักษา เป็นวิทยากร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตตมาศ วิเศษสินธุ์ ร่วมดำเนินกิจกรรม ทั้งนี้ หนึ่งในพื้นที่ปฏิบัติการ คือ “ศูนย์การเรียนรู้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (สวนลุงสงค์)” ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการผลิตน้ำมันมะพร้าวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Organic Thailand) จากกรมวิชาการเกษตร และมีผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้รับการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ เช่น GAP, ฮาลาล, OTOP 5 ดาว และคาร์บอนฟุตปริ้นต์ (Carbon Footprint) โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวดังกล่าวได้นำมาต่อยอดด้วยนวัตกรรมเป็นเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ “Prow Thai by สวนลุงสงค์” ซึ่งสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้น้ำมันมะพร้าวดูแลสุขภาพและความงามจากอดีตถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชนเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ การขยายช่องทางตลาด และการจัดทำมะพร้าว GI (Geographical Indication) เพื่อยกระดับอัตลักษณ์และมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในพื้นที่
นอกจากนี้ คณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันจัดทำไทม์ไลน์กระบวนการแปรรูปน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นผลิตภัณฑ์สบู่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้มีเอกลักษณ์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชน โดยใช้กระบวนการ “วิศวกรสังคม” วิเคราะห์จุดแข็ง ปัญหา และโอกาสของพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การสร้างโจทย์วิจัยและบริการวิชาการที่สอดคล้องกับบริบทจริง การอบรมในครั้งนี้จึงเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ช่วยให้อาจารย์เข้าใจโจทย์ของพื้นที่อย่างลึกซึ้ง และสามารถต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนางานวิจัยและบริการวิชาการเพื่อชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการ “พัฒนาชุมชนด้วยองค์ความรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน”

















